วิธีเปิดบัญชีธนาคารในจีนสำหรับคนต่างชาติ

คุณอาจเคยได้ยินว่าชาวต่างชาติที่เพิ่งย้ายไปทำงานหรืออาศัยอยู่ในจีน รู้สึกไม่คุ้นเคยกับการใช้ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่แพร่หลายอย่างมาก ทั้งการซื้อของออนไลน์ การจ่ายบิล และธุรกรรมอื่นๆ แทบทุกอย่างเลยทีเดียว! แน่นอนว่าระบบชำระเงินออนไลน์ของจีนนั้นมีประสิทธิภาพและแพร่หลายมาก แต่ทว่าวิธีการชำระเงินทั้งหมดจะต้องเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารของผู้ใช้

การมีบัตรธนาคารจีนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง หากคุณต้องการเข้าถึงบริการทางการเงินในจีนได้สะดวกขึ้น แต่ชาวต่างชาติที่เพิ่งเดินทางถึงจีนอาจจะยังไม่มีบัตรธนาคารจีน แล้วชาวต่างชาติสามารถเปิดบัญชีธนาคารในจีนได้ไหม ชาวต่างชาติจะเปิดบัญชีธนาคารในจีนได้อย่างไร ด้านล่างนี้คือขั้นตอนและข้อควรรู้โดยละเอียดสำหรับการเปิดบัตรธนาคารในจีน

ชาวต่างชาติสามารถเปิดบัญชีธนาคารในจีนได้ไหม

ได้ ชาวต่างชาติสามารถเปิดบัญชีธนาคารในจีนได้ รวมถึงบัญชีกับ Bank of China (BOC)¹, Industrial and Commercial Bank of China (ICBC)², Bank of Communications (BOCOM)³ และอื่นๆ

ชาวต่างชาติต้องแสดงหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุและใบอนุญาตพำนักที่เคาน์เตอร์ธนาคาร และกรอกใบสมัครเปิดบัญชี โดยจะสามารถใช้บัตรธนาคารได้เมื่อใบสมัครได้รับการอนุมัติ

เมื่อผู้ใช้เปิดบัญชีที่ธนาคาร ธนาคารจะตรวจสอบความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดของเอกสารอย่างรอบคอบ หากจำเป็น คุณอาจต้องยื่นเอกสารประกอบเพิ่มเติม ชาวต่างชาติที่มาจากประเทศและภูมิภาคที่มีความเสี่ยงสูง อาจถูกจำกัดในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร³

ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างในการเปิดบัญชีธนาคารในจีน

• หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ: ต้นฉบับและสำเนาหนังสือเดินทางที่อยู่ในระยะเวลาที่ใช้งานได้
• วีซ่าจีน: ธนาคารจะต้องตรวจสอบข้อมูล เช่น ประเภทวีซ่าและวันหมดอายุ
• ใบอนุญาตพำนักชั่วคราวหรือถาวรสำหรับชาวต่างชาติ ขึ้นอยู่กับธนาคารที่คุณเลือก
• หลักฐานการทำงานหรือการศึกษา: แสดงหนังสือรับรองจากสถานที่ทำงานหรือสถานศึกษา พร้อมเอกสารประกอบที่เกี่ยวข้อง (เช่น สัญญาจ้างงาน จดหมายตอบรับการเข้าศึกษา เป็นต้น)
• หลักฐานที่อยู่: อาจเป็นสัญญาเช่าหรือใบอนุญาตพำนักของคุณ
• หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ: ระบุหมายเลขโทรศัพท์มือถือในจีนของคุณ หรือหมายเลขโทรศัพท์ติดต่ออื่นๆ เพื่อให้ธนาคารสามารถติดต่อคุณได้หากจำเป็น

โปรดทราบ: เอกสารสำหรับการเปิดบัญชีธนาคารอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับธนาคารและสาขาของธนาคารนั้นๆ คุณต้องตรวจสอบระเบียบข้อบังคับของสาขาในพื้นที่ของคุณเมื่อดำเนินการเปิดบัญชี

โดยทั่วไปแล้ว มีข้อกำหนดเพิ่มเติมเล็กน้อยสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการสมัครบัตรเครดิต ตัวอย่างเช่น หากชาวต่างชาติต้องการเปิดบัตรเครดิตของธนาคาร ICBC จะต้องเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ มีความประพฤติเหมาะสม และมีอายุระหว่าง 25 ถึง 65 ปี สถานที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ที่ออกบัตร และมีรายได้มั่นคงสูงกว่าค่าจ้างเฉลี่ยในท้องถิ่น²

มีประเภทบัญชีธนาคารในจีนกี่ประเภท

ในประเทศจีนมีธนาคารหลายแห่งที่เสนอบัตรธนาคารหลากหลายประเภท โดยรวมแล้ว บัตรธนาคารของจีนสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ บัตรเดบิต และบัตรเครดิต¹

บัตรเดบิตเป็นบัตรธนาคารที่พบได้ทั่วไป ซึ่งสามารถใช้สำหรับการออมเงินและการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้ นอกจากนี้ บัญชีออมทรัพย์ยังแบ่งออกเป็นเงินฝากแบบตามต้องการ (on-demand deposits) และเงินฝากแบบมีกำหนดระยะเวลา (time-limited deposits) บัตรเครดิตสามารถใช้สำหรับการใช้จ่ายแบบวงเงินและผ่อนชำระได้ คุณสามารถเลือกธนาคารและประเภทบัตรธนาคารที่เหมาะสมตามความต้องการของคุณได้

จะเปิดบัญชีธนาคารในจีนได้อย่างไร

ขั้นตอนการเปิดบัญชีธนาคารอาจแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละธนาคาร นี่คือขั้นตอนแนะนำสำหรับกระบวนการทั่วไป

1. การเปิดเบอร์โทรศัพท์ในจีน
2. ก่อนการสมัครเปิดบัตรธนาคาร ชาวต่างชาติต้องนำหนังสือเดินทางไปเพื่อซื้อและเปิดใช้งานเบอร์โทรศัพท์ด้วยชื่อของตนเอง สิ่งนี้จะช่วยให้สามารถรับรหัสยืนยันสำหรับการโอนเงินได้
3. ไปที่เคาน์เตอร์ธนาคารพร้อมเอกสารและวัสดุที่จำเป็นทั้งหมด และกรอกแบบฟอร์มเปิดบัญชีที่เหมาะสม
4. ลงนามในเอกสารที่จำเป็น ตั้งรหัสผ่าน และรับบัตรเดบิตของคุณ

โปรดทราบ:

• ค่าธรรมเนียมขั้นต่ำสำหรับบัตรใหม่โดยทั่วไปคือ 5 หยวนต่อบัตร (เช่น ICBC² และ BOCOM³) ดังนั้นควรมีเงินสดติดตัวไว้บ้าง
• บัญชีออมทรัพย์ส่วนใหญ่ในจีนมีค่าธรรมเนียม 10 หยวนต่อบัตรต่อปี (เช่น ICBC² และ BOCOM³) ซึ่งธนาคารจะหักโดยอัตโนมัติ

สามารถเปิดบัญชีธนาคารในจีนออนไลน์ได้ไหม

ธนาคารจีนส่วนใหญ่รองรับบริการเปิดบัญชีออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น ICBC² คุณสามารถเปิดบัญชีออมทรัพย์ผ่านบัญชี WeChat อย่างเป็นทางการของ "ICBC Customer Service" ได้ เพียงเลือก "Finance” > “Savings Card" ในแถบเมนูด้านล่าง แล้วกรอกข้อมูลตามคำแนะนำ

แต่สำหรับชาวต่างชาติที่จะเปิดบัญชีธนาคารในจีน คุณน่าจะต้องไปที่สาขาด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่

ควรเลือกธนาคารไหนดี

จีนมีธนาคารมากมายให้ชาวต่างชาติเลือก ธนาคารทุกแห่งมีเครือข่ายสาขาและตู้เอทีเอ็มที่กว้างขวาง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของธนาคารที่คุณสามารถเลือกได้

• Bank of China
• Industrial and Commercial Bank of China (ICBC)
• Bank of Communications
• China Construction Bank
• China Merchants Bank

นอกเหนือจากธนาคารท้องถิ่นแล้ว ยังมีธนาคารระหว่างประเทศ เช่น Citibank, Standard Chartered Bank และ HSBC ที่ชาวต่างชาติสามารถเปิดบัญชีในจีนได้

ธนาคารจีนแห่งไหนบ้างที่มีสาขาในต่างประเทศ

ก่อนตัดสินใจว่าจะใช้บริการธนาคารใด คุณอาจต้องการพิจารณาว่าธนาคารจีนใดบ้างที่มีสาขาในต่างประเทศ ปัจจุบัน Bank of China และ Industrial and Commercial Bank of China มีสาขาในต่างประเทศมากที่สุด

ICBC มีสาขาในต่างประเทศ 404 แห่งกระจายอยู่ใน 42 ประเทศและภูมิภาค (ข้อมูล ณ ปี 2015⁴) ในขณะที่ Bank of China มีสาขามากกว่านั้น โดยมี 643 สาขาในต่างประเทศ ทั้งในฮ่องกง, มาเก๊า, ไต้หวัน, ดูไบ, อาบูดาบี, ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, ยุโรป, อเมริกา และแอฟริกา⁵

นอกจากนี้ China Construction Bank, China Merchants Bank และ Bank of Communications ก็ได้จัดตั้งสาขาในต่างประเทศเช่นกัน

จะส่งเงินไปไทยใช่รึเปล่า? มาใช้อัตราแลกเปลี่ยนกลางของตลาดทุกครั้งกับ Wise ดูสิ

ถ้าคุณอาศัยอยู่ในต่างประเทศ และจำเป็นต้องส่งเงินกลับบ้านที่ไทย คุณจะต้องหาวิธีจัดการเงินระหว่างประเทศให้ดีที่สุด

ในหลายครั้ง อาจสังเกตเห็นว่าการแปลงเงินเป็นเงินบาทและโอนเงินจากต่างประเทศอาจมีราคาแพงมากเมื่อใช้ธนาคารทั่วไป นั่นเป็นเพราะนอกจากธนาคารจะมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่างประเทศแล้ว ในหลายๆ ครั้งอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารก็มีการบวกราคาเพิ่มด้วย

เพราะแบบนี้ Wise ถึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ Wise ใช้อัตราแลกเปลี่ยนกลางของตลาดโดยไม่มีการบวกเงินในอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่ม และจะทำการแจ้งค่าธรรมเนียมก่อนการทำธุรกรรม ซึ่งทำให้การดูต้นทุนว่าจริงๆ แล้วคุณเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ให้การโอนเงินแต่ละรายการเป็นเรื่องที่สะดวก ง่ายดาย - ซึ่งในหลายๆ ครั้งก็อาจจะถูกกว่าธนาคารถึง 9 เท่า โดยสามารถดูการเปรียบเทียบ Wise กับผู้ให้บริการรายอื่นได้ที่ด้านล่าง

สิ่งที่ควรรู้เมื่อใช้ธนาคารจีนในการโอนเงินระหว่างประเทศ

อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ธนาคารใช้เป็นอย่างไร

เมื่อคุณทำการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านธนาคารจีน โดยทั่วไปธนาคารจะใช้อัตราที่ตนเองกำหนดขึ้น เพื่อให้ได้กำไรจากการแลกเปลี่ยนสกุลเงินมากขึ้น แต่คุณควรรู้ว่ามีอัตราที่แท้จริงอยู่ นั่นคือ อัตรากลางตลาด (mid-market rate) เป็นจุดกึ่งกลางของอัตราซื้อและอัตราขายที่ธนาคารกำหนด และเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นอัตราที่ยุติธรรมที่สุด

โดยทั่วไปใช้เวลานานเท่าไหร่

ยกตัวอย่าง Bank of China

ประการแรก เงินที่โอนจะเข้าบัญชีของคุณภายใน 3-5 วันทำการ ระยะเวลาที่เงินจะเข้าบัญชีที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลการโอนเงินที่คุณให้มานั้นเป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องของประเทศปลายทางหรือไม่ ในขณะเดียวกัน ความเร็วในการดำเนินการของธนาคารที่โอนเงินก็มีผลต่อระยะเวลาที่เงินจะเข้าบัญชีด้วย

ประการที่สอง หลังจากยอมรับการโอนเงินระหว่างประเทศของบุคคลแล้ว Bank of China จะส่งโทรเลขการโอนเงินไปยังธนาคารผู้รับในต่างประเทศในวันเดียวกัน (วันทำการ) ธนาคารในต่างประเทศ (รวมถึงธนาคารผู้โอน) ควรดำเนินการโอนเงินในอีก 1-2 วันทำการถัดไป¹

คุณต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

ขึ้นอยู่กับสาขาของธนาคารที่คุณทำการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยทั่วไปหนังสือเดินทางเป็นสิ่งที่ต้องมีอย่างแน่นอน และคุณอาจต้องการปรึกษาธนาคารในพื้นที่ของคุณเพื่อตรวจสอบว่าคุณควรนำหลักฐานภาษีในจีนมาด้วยหรือไม่

คุณต้องกรอกแบบฟอร์มและเอกสารอะไรบ้าง

ในการส่งเงินออกจากจีนด้วย Bank of China ลูกค้าต้องกรอกแบบฟอร์มการโอนเงินผ่านโทรเลขภาษาอังกฤษพร้อมข้อมูลการโอนเงินดังต่อไปนี้⁶

• จำนวนเงินและสกุลเงินที่ต้องการโอน
• ชื่อและที่อยู่ของผู้รับเงิน
• หมายเลขบัญชีของผู้รับเงินที่ธนาคารเปิดบัญชี
• ชื่อธนาคารที่เปิดบัญชีของผู้รับเงิน, รหัส SWIFT หรือที่อยู่

มีวงเงินการโอนเท่าไหร่

ยกตัวอย่าง Bank of China อีกครั้ง วงเงินสะสมรายวันเท่ากับ 50,000 USD หากเกินวงเงินที่กำหนด จะต้องยื่นหลักฐานยืนยันความถูกต้องของจำนวนเงินธุรกรรมภายใต้บัญชีปัจจุบันด้วย⁶