Vat Refund ในญี่ปุ่น: ช้อปญี่ปุ่นแบบปลอดภาษี คู่มือการขอคืนภาษีง่ายๆ

ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรมที่น่าสนใจและอาหารอร่อย ทำให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวหลายคน หากคุณเบื่ออากาศเดิมๆ ในบ้านเราแล้ว ลองหาโอกาสซื้อตั๋ว ขึ้นเครื่องบินมุ่งหน้าสู่ประเทศอันแสนเปี่ยมชีวิตชีวาแห่งนี้ คุณจะได้พบกับเมืองใหญ่ระดับโลกที่มีกิจกรรมให้ทำไม่รู้จบทั้งกลางวันและกลางคืนเลยล่ะ

การช้อปปิ้งก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาญี่ปุ่น ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบอนิเมะ แบรนด์หรู หรือหัตถกรรมดั้งเดิม ก็มาถูกที่แล้ว แต่คุณอาจจะพบว่าค่าใช้จ่ายในการช้อปปิ้งในญี่ปุ่นนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โชคดีที่คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวได้ด้วยการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT refund) ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่เสนอการช้อปปิ้งปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งหมายความว่าหากคุณมีคุณสมบัติ คุณสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของญี่ปุ่น 10% จากการซื้อสินค้าหลายรายการ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใกล้การเดินทางไปญี่ปุ่นที่ประหยัดยิ่งขึ้น ด้วยการให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเลือกการขอคืนภาษี VAT สำหรับผู้พำนักในสหราชอาณาจักร

ภาษี VAT ในญี่ปุ่นมีอัตราเท่าไหร่

ในญี่ปุ่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax หรือ VAT) มักถูกเรียกว่า ภาษีการบริโภค (Consumption Tax) อัตราภาษีมาตรฐานอยู่ที่ 10% สำหรับการซื้อสินค้าส่วนใหญ่ สินค้าบางประเภท เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และนิตยสารแบบสมัครสมาชิก จะใช้อัตราภาษีลดหย่อนที่ 8%

หากคุณยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับอัตราภาษีที่ใช้กับการซื้อของคุณ โปรดดูตารางด้านล่างเพื่อตรวจสอบอย่างรวดเร็ว¹

มีสองวิธีในการเข้าถึงการช้อปปิ้งปลอดภาษีในญี่ปุ่น คุณสามารถซื้อสินค้าปลอดภาษีได้โดยตรง หรือขอคืนภาษี VAT ผ่านเคาน์เตอร์ปลอดภาษีที่กำหนดในห้างสรรพสินค้า จะมีข้อมูลเพิ่มเติมให้ในบทความนี้

ใครมีสิทธิ์ช้อปปิ้งปลอดภาษีในญี่ปุ่นบ้าง

โครงการคืนภาษี VAT สำหรับนักท่องเที่ยวในญี่ปุ่นมักเรียกว่าโครงการ Tax-Free Shopping แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ ไม่ใช่สินค้าทุกรายการที่มีสิทธิ์ในโครงการนี้ สินค้าที่สามารถขอคืนภาษีได้แบ่งออกเป็น "สินค้าทั่วไป" (general items) และ "สินค้าบริโภค" (consumables) "สินค้าทั่วไป" หมายถึง ของใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า กระเป๋า กล้อง เสื้อผ้า รองเท้า ของขวัญ ของที่ระลึก และนาฬิกา ส่วน "สินค้าบริโภค" รวมถึงเครื่องสำอาง อาหาร เครื่องดื่ม และขนม² หากสินค้าของคุณไม่อยู่ในหมวดหมู่เหล่านี้ คุณควรตรวจสอบกับพนักงานร้านค้าหรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังสามารถขอคืนภาษี VAT ได้

คุณต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดเหล่านี้เพื่อเข้าร่วมโครงการนี้ด้วย

• คุณเดินทางมาญี่ปุ่นด้วยวีซ่าชั่วคราว (Temporary Visitor's Visa), วีซ่านักการทูต (Diplomat Visa) หรือวีซ่าทางการ (Official Visa)
• คุณจะพำนักในญี่ปุ่นไม่เกิน 6 เดือน และ
• สำหรับ "สินค้าบริโภค" มูลค่ารวมในใบเสร็จของคุณต้องอยู่ในช่วง ¥5,500 - ¥550,000 (รวม VAT) และสำหรับ "สินค้าทั่วไป" มูลค่ารวมในใบเสร็จของคุณต้องมี อย่างน้อย ¥5,500 (รวม VAT)

หากคุณมีสัญชาติญี่ปุ่น คุณก็สามารถขอคืนภาษี VAT ในญี่ปุ่นได้เช่นกัน โดยมีเงื่อนไขว่าคุณต้องอาศัยอยู่ต่างประเทศมานานกว่า 2 ปี และเดินทางมาญี่ปุ่นชั่วคราวเท่านั้น (น้อยกว่า 6 เดือน)

จะได้รับ VAT คืนในญี่ปุ่นเท่าไหร่

อัตราภาษี VAT มาตรฐานในญี่ปุ่นคือ 10% แต่คุณอาจไม่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน มีสองเหตุผลสำหรับเรื่องนี้

ประการแรก ในกรณีส่วนใหญ่ คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการดำเนินการให้กับเคาน์เตอร์ปลอดภาษีที่กำหนด

ประการที่สอง คุณอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเพิ่มเติม หากคุณเลือกรับเงินคืนผ่านแพลตฟอร์มการชำระเงินมือถือบางประเภท

จะส่งเงินไปไทยใช่รึเปล่า? มาใช้อัตราแลกเปลี่ยนกลางของตลาดทุกครั้งกับ Wise ดูสิ

ถ้าคุณอาศัยอยู่ในต่างประเทศ และจำเป็นต้องส่งเงินกลับบ้านที่ไทย คุณจะต้องหาวิธีจัดการเงินระหว่างประเทศให้ดีที่สุด

ในหลายครั้ง อาจสังเกตเห็นว่าการแปลงเงินเป็นเงินบาทและโอนเงินจากต่างประเทศอาจมีราคาแพงมากเมื่อใช้ธนาคารทั่วไป นั่นเป็นเพราะนอกจากธนาคารจะมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่างประเทศแล้ว ในหลายๆ ครั้งอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารก็มีการบวกราคาเพิ่มด้วย

เพราะแบบนี้ Wise ถึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ Wise ใช้อัตราแลกเปลี่ยนกลางของตลาดโดยไม่มีการบวกเงินในอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่ม และจะทำการแจ้งค่าธรรมเนียมก่อนการทำธุรกรรม ซึ่งทำให้การดูต้นทุนว่าจริงๆ แล้วคุณเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ให้การโอนเงินแต่ละรายการเป็นเรื่องที่สะดวก ง่ายดาย - ซึ่งในหลายๆ ครั้งก็อาจจะถูกกว่าธนาคารถึง 9 เท่า โดยสามารถดูการเปรียบเทียบ Wise กับผู้ให้บริการรายอื่นได้ที่ด้านล่าง

วิธีขอคืน VAT ในญี่ปุ่น

บ่อยครั้งที่คุณจะต้องไปที่เคาน์เตอร์คืนภาษีที่ร้านค้าเพื่อขอคืนภาษี VAT ในวันเดียวกับการซื้อสินค้า ดังนั้น ควรเผื่อเวลาให้เพียงพอสำหรับการขอคืนภาษี

และดังที่กล่าวไว้ข้างต้น มีมากกว่าหนึ่งวิธีในการเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งปลอดภาษีในญี่ปุ่น คุณสามารถขอคืนภาษี VAT ได้ทันทีหลังจากช้อปปิ้ง ซึ่งปกติจะทำได้ที่เคาน์เตอร์ปลอดภาษีที่กำหนด หรือคุณสามารถหาร้านค้าที่ให้บริการช้อปปิ้งปลอดภาษีได้ เพียงแสดงหนังสือเดินทางของคุณให้พนักงานแคชเชียร์ตรวจสอบสิทธิ์ หลังจากนั้น พนักงานขายอาจยกเว้นภาษี VAT ให้คุณได้ทันที

ก่อนที่จะดูขั้นตอนต่างๆ มาดูเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอคืนภาษี VAT ในญี่ปุ่นกันก่อน

• ใบเสร็จรับเงิน
• หนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ รวมถึงตราประทับเข้าประเทศที่ถูกต้อง
• บัตรเครดิตหรือบัตรชำระเงินอื่นๆ
• สำหรับพลเมืองญี่ปุ่น ต้องมีเอกสารแสดงว่าผู้ยื่นคำขออาศัยอยู่ต่างประเทศมานานกว่า 6 เดือน และ
• สินค้าที่ซื้อ

แจ้งพนักงานขณะช้อปปิ้ง

ก่อนการซื้อสินค้า โปรดแจ้งพนักงานขายว่าคุณต้องการขอคืนภาษี VAT พวกเขาอาจต้องตรวจสอบเอกสารที่ถูกต้องของคุณเพื่อยืนยันสิทธิ์ ดังนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณนำเอกสารทั้งหมดติดตัวไปด้วยเมื่อเดินทาง ร้านค้าบางแห่งที่มีโลโก้ "Japan Tax-Free Shop" จะคืนภาษี VAT ให้คุณทันที มิฉะนั้น ร้านค้าอาจแนบหลักฐานการซื้อเข้ากับหนังสือเดินทางของคุณเพื่อการขอคืนเงินที่เคาน์เตอร์ภาษีในภายหลัง

ขอรับเงินคืน VAT

ถึงช่วงเวลาที่คุณรอคอย การคืนภาษี VAT ของคุณพร้อมให้รับแล้ว มุ่งหน้าไปยังเคาน์เตอร์ภาษีที่กำหนดพร้อมใบเสร็จและเอกสารที่จำเป็น พนักงานที่เคาน์เตอร์จะดำเนินการคืนเงินเป็นเงินสด ผ่านบัตรเครดิต หรือการชำระเงินผ่านแพลตฟอร์มมือถือบางประเภท³

อย่างไรก็ตาม การขอคืนภาษี VAT ของคุณยังไม่จบแค่นี้

ให้สินค้าของคุณได้รับการตรวจสอบที่สนามบิน

ก่อนออกเดินทางจากญี่ปุ่น คุณจะต้องแสดงสินค้าของคุณเมื่อผ่านด่านศุลกากร ขั้นตอนจากเอกสารที่เป็นกระดาษได้ถูกเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัลแล้ว ทำให้สะดวกและรวดเร็วที่สนามบิน แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่คุณควรทราบก่อนไปสนามบิน

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าปลอดภาษีทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องของคุณ หรือในที่ที่เข้าถึงได้ง่ายเพื่อแสดงให้ศุลกากร และ
• สินค้าบริโภคจะต้องถูกบรรจุในถุงพลาสติกใสและห้ามเปิด

หากศุลกากรไม่สามารถยืนยันเอกสารหรือคุณสมบัติของคุณได้ คุณจะต้องชำระภาษีการบริโภคทันที⁴ ดังนั้น ควรเดินทางไปถึงสนามบินแต่เนิ่นๆ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเร่งรีบในขั้นตอนต่างๆ และพลาดสิ่งสำคัญไป

โปรดทราบว่าอัตราภาษีและกฎระเบียบอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โปรดตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งข้อมูลทางการเสมอเพื่อคำแนะนำที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด

แหล่งที่มาของข้อมูลสำหรับบทความนี้

แหล่งที่มาถูกตรวจสอบครั้งล่าสุดเมื่อ 11-มิ.ย.-2024